“เน็ตเคยเห็นคนคนหนึ่งที่ผ่านความรักครั้งเก่ามานานแล้ว แต่หลังจากนั้นทั้งๆ ที่มีคนดีๆ หลายคนเข้ามาในชีวิต เขาก็ไม่รักใครอีกเลยสักคน จนเราตั้งคำถามว่าเป็นเพราะอะไร
“เราเลยคิดว่า มันเป็นไปได้ไหมว่าถึงแม้คนคนนี้เขาจะพาตัวเองออกมาไกลจากความรักครั้งเก่า แต่เขาลืมย้ายหัวใจมาด้วย”
จากคำถามนี้เลยเป็นที่มาของคอนเซปต์ในเพลง ‘Remove’ และเนื้อเพลงที่ร้องว่า “จะย้ายและพาตัวเองให้ห่างไกลเท่าไหร่ ก็ไม่ได้ย้ายหัวใจให้ห่างไกลจากเธอ” Sahnfun หรือ เน็ต-สานฝัน จิตต์มิตรภาพ ศิลปินหญิงคนล่าสุดจากค่ายสนามหลวงมิวสิก อธิบายถึงที่มาของ “Remove (ย้ายหัวใจ)” ซิงเกิลแรกในชีวิตของเธอ ซึ่งเธอเลือกจากเพลงที่แต่งเก็บไว้ทั้งหมดกว่า 50 เพลง ตั้งแต่ช่วงอายุประมาณ 16 จนถึงปัจจุบัน
ในจำนวนนั้น บางเพลงใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะแต่งจนจบสมบูรณ์ แต่สำหรับบางเพลงไอเดียก็พรั่งพรูออกมารวดเดียว จนใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น ซึ่ง “Remove” เป็นเพลงหนึ่งในนั้น และเป็นเพลงหนึ่งในอีกหลายๆ เพลงของ Sahnfun ที่บอกเล่าความเศร้าในความรักผ่านบทเพลง
“เน็ตชอบเล่าเรื่องเศร้ามากกว่า เนื้อหาของเพลงส่วนใหญ่ก็เลยออกมาแบบนั้น แต่ในความเศร้า ทำนองมันจะสนุกเพราะเป็นคีย์เมเจอร์ ฟังแล้วไม่หม่น อย่างเพลงนี้ดนตรีจะออกแนว K-pop เลย เพลงส่วนมากของเน็ตถ้าฟังแค่ดนตรีจะนึกว่าเป็นเพลงความรักสมหวัง แต่พอฟังเนื้อร้องแล้วจะรู้ว่าไม่ใช่ มันเป็นความขัดแย้งที่เราใส่ไว้ในเพลง” Sahnfun อธิบายเอกลักษณ์ในเพลงของเธอ ซึ่งนอกจากเรื่องของความขัดแย้งระหว่างเนื้อเพลงที่หม่นเศร้ากับซาวนด์ดนตรีที่สดใสแล้ว ยังมีกิมมิกเล็กๆ อีกอย่าง นั่นคือทุกเพลงของเธอจะใช้ชื่อขึ้นต้นด้วยคำว่า re
ในส่วนของมิวสิกวิดีโอนั้น Sahnfun ใช้การ์ตูนมาเล่าเรื่องทฤษฎีการย้ายหัวใจที่นอกจากจะทำให้สถานการณ์ตามเนื้อหาในเพลงชัดขึ้นแล้ว ยังเป็นการบอกเล่ามุมมองที่เธอมีต่อความรักอีกด้วย เพราะสำหรับเธอแล้ว ความรักก็คือการแลกหัวใจกันระหว่างคนสองคน
“ตรงท่อนฮุกมีประโยคหนึ่งที่ร้องว่า เพราะสุดท้ายหัวใจไม่ยอมปล่อย มันดึงมันคว้าไม่ปล่อยเธอสักที ภาพแรกที่เน็ตเห็นก็คือ หัวใจมีแขนมีขา มีชีวิตของมันเอง แล้วผู้หญิงที่เป็นเจ้าของหัวใจ เขาพยายามจะดึงหัวใจตัวเอง แต่หัวใจกลับไปคว้าผู้ชายคนเก่า ซึ่งเป็นความรักครั้งเก่าอยู่ จากภาพนั้นก็เป็นที่มาของเรื่องราวในมิวสิกวิดีโอเพลงนี้”
นอกจากจะเป็นทั้งนักร้อง นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ให้กับงานเพลงของตัวเองแล้ว Sahnfun ยังได้ทำงานร่วมกับ ปุ๊ย-ดุสิต ตันสกุล โปรดิวเซอร์มากความสามารถอีกคนหนึ่งของวงการเพลงไทย ซึ่งรับหน้าที่เรียบเรียงเพลงนี้ให้ทุกรายละเอียดออกมาตรงกับสิ่งที่เธอคิดไว้ด้วย
“เน็ตเรียนเปียโนตั้งแต่ 3 ขวบจนจบเกรด 8 ของ Trinity เพราะฉะนั้นเวลาแต่งเพลงก็จะมีเนื้อร้อง ทำนอง คอร์ดพร้อมทุกอย่าง แต่เพราะเราไม่ถนัดทำโปรแกรม ก็เลยได้พี่เขาเข้ามาช่วย โดยเราจะหาเรฟเฟอร์เรนซ์ไปว่าอยากได้เสียงอะไรประมาณไหน พอเขาทำเดโมมาแล้วเราจะก็นั่งปรับไปด้วยกัน ใช้เวลาทำตั้งแต่ช่วงเย็นหลังเลิกงานไปจนถึงเที่ยงคืน ตีหนึ่งเป็นประจำ” ที่ต้องรอเวลาหลังเลิกงานนั้นเป็นเพราะบทบาทอีกด้านหนึ่งของ Sahnfun คือการทำงานในสาย Wealth Management ประจำอยู่ที่หน่วยงานซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง SCB และ Julius Baer
ย้อนกลับไปช่วงที่เป็นวัยรุ่น ครั้งหนึ่ง Sahnfun เคยคิดอยากจะก้าวเข้าสู่เส้นทางศิลปินอย่างจริงจังและเคยเกือบจะดร็อปเรียนเพื่อทำตามความฝันทางด้านนี้ การเป็นศิลปินในครั้งนี้ของเธอจึงเป็นการทำตามความฝันอย่างหนึ่งในชีวิต
“สมัยก่อนเน็ตเคยฝังใจว่าตัวเองเป็นคนเสียงไม่ดี เพราะเคยทำโชว์เคสที่โรงเรียนแล้วโดนเพื่อนทักว่า เสียงเหมือนเด็กเลย ซึ่งทุกวันนี้เราไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำพูดนั้นแล้ว ไม่ใช่คิดว่าตัวเองเป็นคนเสียงดีนะ แต่เรายอมรับได้มากกว่าเสียงเราเป็นแบบนี้ ตัวตนของเราก็เป็นอย่างนี้
“แล้วเน็ตมองว่าการพยายามทำความฝันไม่ใช่เรื่องผิด เพราะถ้าเราพยายามก็เท่ากับว่าเราได้ให้โอกาสตัวเองแล้ว คนอื่นจะคิดยังไง จะชอบเพลงเราหรือเปล่า เราควบคุมไม่ได้ ถ้าเราทำอย่างเต็มที่แล้ว ความสุขก็จบตั้งแต่ที่เราได้ทำเพลงแล้ว”
ติดตาม มิวสิควิดีโอ “ Remove ” ได้ทางยูทูปสนามหลวงมิวสิก >> https://youtu.be/GMn1h3RYSr8
Download iTunes ได้ที่ >> https://itunes.apple.com/th/album/remove-single/1438087846
และติดตามข่าวสารความเคลื่ อนไหวได้ที่ https://www.facebook.com/sahnfun/ ; https://www.facebook.com/ SanamluangMusicOfficial/
ฟัง เพลง “ Remove ” ผ่าน YouTube, Apple Music, JOOX, Spotify สถานีวิทยุและโทรทัศน์ทั่วประเทศ